Son เด็กผวา อีกหนึ่งต้นกำเนิดของ ‘เด็กนรก’
Son เด็กผวา เล่าเรื่องราวของ ลอร่า หญิงสาวที่หลุดพ้นออกมาจากความทรงจำอันแสนเลวร้าย พร้อมกับใช้ชีวิตเรียบง่ายกับลูกชาย เดวิด ที่เธอเลี้ยงดูแลมาเป็นอย่างดี กระทั่งเกิดเหตุประหลาดขึ้นภายในบ้าน และเริ่มทำให้ลูกชายต้องเผชิญหน้ากับอาการของโรคแปลกประหลาดที่ทางการแพทย์ก็อธิบายไม่ได้ ทำให้เธอลุกขึ้นมาทวงความเป็นธรรมรับกรรมความสยอง และช่วยชีวิตเดวิดลูกชายให้หลุดพ้นความบ้าคลั่งจากการเป็นเด็กผวาให้สำเร็จ
นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทเองของ “อีแวน คาวานาห์” ผู้กำกับยังไม่ค่อยเครดิตหนังดังสักเท่าไหร่ แต่เขาก็สั่งสมประสบการณ์จากการทำหนังทุนน้อยๆ มาแล้วหลายเรื่อง และใน Son ก็ยังคงเป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำของเขาอีกเรื่องเช่นกัน เพียงแต่ว่ามีการวางโครงเรื่องและคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจไม่เบา ต้องยอมรับว่าบทของหนังทำให้คนดูต้องจดจ่อไม่ละสายตา แม้ว่าหนังจะยังไม่ได้เข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบอะไรเท่าไหร่ แต่ก็มีความสนุกในตัวเอง
แต่ถึงแม้ว่า Son เด็กผวาจะมีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ แต่วิธีและการเล่าเรื่องของหนังก็ยังค่อนข้างราบเรียบไปสักหน่อย ด้วยความเป็นพล็อตเรื่องสไตล์สูตรสำเร็จเดิมๆ ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่ อาจจะทำให้คนดูคาดเดาอะไรไม่ได้ในบาง แต่ก็ยังมีหลายๆ จุดที่น่าจะคาดเดาได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน จึงทำให้อารมณ์ของหนังยังไปได้ไม่ถึงที่สุด การเล่าเรื่องที่ทิ้งปริศนาแบบกั๊กๆ เอาไว้ตลอดทาง จะเฉลยก็ไม่เฉลย จะปูทางก็ไม่ทำเป็นกิจลักษณะ
ถึงกระนั้นหนังก็ยังมีองค์ประกอบงานสร้างที่น่าชื่นชมไม่น้อย การออกแบบและดีไซน์ฉากต่างๆ ค่อนข้างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นจัดวางและจัดแสงสีต่างๆ เป็นจุดที่ช่วยขับเคลื่อนอารมรณ์คนดูที่มีต่อสถานการณ์ในหนังได้เป็นอย่างดี อีกทั้งฉากสยองขวัญชวนสะพรึงในหนังก็ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจและน่ากลัวใช้ได้เลยทีเดียว เป็นฉากเรียบง่ายที่ค่อนข้างแฝงด้วยพลังที่น่าจดจำ
ส่วนทางด้านการแสดงนั้น อาจจะยังไม่ค่อยมีอะไรที่โดดเด่นสักเท่าไหร่ หนังที่เน้นหลักๆ ที่การย่างก้าวของแม่ลูก ลอร่า กับ เดวิด ที่เป็นแกนหลักในการเล่าเรื่องทั้งหมด “แอนดี้ มาติแชก” กับ “ลุค เดวิด บลุมม์” ก็ทำหน้าที่ของพวกเขาได้ดี เพียงแต่อาจจะยังไม่สามารถพยุงภาพรวมของหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้มากนัก และถึงแม้ว่าจะได้ “เอมิล เฮิร์ช” มาช่วยประคับประคอง แต่ในท้ายที่สุดในแง่การแสดงก็ยังไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นสักเท่าไหร่
โดยภาพรวมนั้น Son เด็กผวา เป็นหนังสยองขวัญที่มพร้อมกับสูตรสำเร็จที่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ หนังที่ปูพรมเอาไว้กับประเด็นความเชื่อและเรื่องลัทธิประหลาดต่างๆ ที่หนังไม่ได้เลือกจะเจาะเข้าประเด็นนี้ได้ลึกอะไรสักเท่าไหร่ เป็นการโฟกัสหลักที่ชีวิตของคู่แม่ลูกที่พยายามหาหนทางเอาตัวเองให้รอดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คีย์หลักของหนังค่อนข้างดีใช้ได้ มีการสื่อสารและถ่ายทอดมุมมองที่น่าสนใจ แบ่งเส้นบางๆ ระหว่างความเชื่อกับอาการป่วย
อ่านรีวิวหนังอื่นได้ที่ >>> https://spoilmovieclub.com/