รีวิวหนัง Sonic The Hedgehog 2
เมื่อมรกตกำลังจะตกไปในมือผู้ร้าย เจ้าเม่นแสนดีอย่างโซนิค จึงร่วมมือกับเพื่อนจิ้งจอกเพื่อชิงมรกตกลับมา เรื่องราวสุดปั่นป่วนและแสนวุ่นวายจึงเกิดขึ้น พวกเขาจะชิงมรกตกลับมาได้หรือไม่ ไปให้กำลังใจพวกเขาได้ที่ ufabet เลย นับว่าเป็นการกลับมา สมการรอคอยที่ไม่นานมากนัก จากภาคหนึ่งจบก็สร้างภาคสองต่อเลย ใช้เวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น Sonic The Hedgehog 2 ภาคนี้ยังคงถูกสร้างโดย ‘เจฟฟ์ ฟาวเลอร์’ และใช้นักแสดงเดิมแบบครบทีม ใครที่คิดถึงเหล่านักแสดงจากภาคหนึ่ง จะได้เห็นกันอีกครั้งแน่นอน นับว่าเป็นหนังที่สร้างมาจากเกมที่ลบล้างอาถรรพ์หนังเห่ยได้ในไม่กี่เรื่อง ถึงแม้จะสร้างมาจากเกมแต่ก็เป็นการสานต่อความสำเร็จจากภาคแรกได้อย่างดีทีเดียวและแน่นอนเรื่องนี้เราจะได้เห็นเจ้าเม่นผู้แสนดีตัวนี้ทำภารกิจสุดท้าทายเช่นเคย มีการกลับมาของตัวร้ายที่นับว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ใครอยากชมภาพยนตร์แอนิเมชันเจ้าเม่นน้ำเงินตัวนี้ คลิกเข้ามาดู Sonic The Hedgehog 2 เต็มเรื่อง ที่นี่ได้เลย
Sonic The Hedgehog 2 นี้เป็นเรื่องราวของใคร
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่กล่าวถึง ‘โซนิค’ ที่หลังจากขับไล่ ‘ดร.โรบอตนิก’ ไปอยู่ดาวเห็ดได้สำเร็จในภาคแรก เขาจึงได้มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของ ‘ทอม’ นายอำเภอเมืองกรีนฮิลล์และภรรยาของเขา ‘แมดดีย์’ ในขณะที่เขากำลังสนุกกับการเป็นฮีโร่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อยู่นั้น วันหนึ่งดร.โรบอตนิกก็หาทางหนีออกมาจนได้และเขาได้พบกับแหล่งพลังงานที่แสนมหัศจรรย์อย่างมรกต อัญมณีทรงพลังที่มีอำนาจในการทำลายอารยธรรมได้ เขาจึงจับมือกับ ‘นักเคิลส์’ นักรบเผ่าอีคิดนาที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในกาแล็กซีมาร่วมทีมเพื่อแย่งชิงมรกต ด้านโซนิคเมื่อรู้เข้าจึงคิดหาทางแย่งชิงมรกตกลับมาให้ได้ เพื่อไม่ให้ไปตกในมือของผู้ร้าย โดยมีจิ้งจอกแฟนพันธ์ุแท้ตัวจริงของโซนิคอย่าง ‘เทลส์’ ร่วมทำภารกิจกู้โลกครั้งนี้ด้วย สุดท้ายแล้วโซนิคจะแย่งมรกตมาได้หรือไม่ ติดตามต่อได้ใน Sonic The Hedgehog 2 ซับไทยเลยค่า
พล็อตเรื่องของ Sonic The Hedgehog 2
นั้นมีความคล้ายคลึงเรื่องราวจากเกมและเรื่องราวจากแอนิเมชัน Sonic X (2003-2006) เป็นอย่างมาก จนแอบคิดไม่ได้เลยว่าผู้สร้างได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวเหล่านี้หรือเปล่า เพราะเรื่องราวในหนังและอนิเมะบางตอนนั้นแอบคล้ายกันพอสมควร โดยเฉพาะฉากที่แย่งชิงมรกตและตัวละครที่ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกในหนัง นั้นทำเอาเราเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย หากใครที่ยังไม่เคยดูโซนิคมาก่อน ก็ถือว่าเป็นการเรียนรู้ตัวละครใหม่ ๆ ไปด้วย แต่สำหรับใครที่เป็นสาวกโซนิคแค่เอ่ยชื่อตัวละครก็น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามถึงจะมีกลิ่นอายของอนิเมะเรื่องก่อนของโซนิคติดมาด้วย แต่ภาคนี้ถือเป็นการทุ่มทุนสร้างหนังที่สเกลใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้หนังดูเป็นฟอร์มยักษ์เทียบเท่าหนังมาเวลได้เลย สำหรับใครที่อยากเห็นความยิ่งใหญ่ของหนังเรื่องนี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
บทบาทของนักแสดงหลักในภาพยนตร์
ในแง่ของนักแสดง ต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มารับบทดร.โรบอตนิกเลยนั่นก็คือลุง ‘จิม แครีย์’ ที่ฟาดฝีมือการแสดงได้อย่างน่าตื่นเต้น เล่นใหญ่สมบทบาท ใครที่ตั้งตารอคอยลุงคนนี้นับว่าไม่เป็นการผิดหวังแน่นอน ลุงเขาปล่อยลีลาแบบจัดเต็ม แทงบอล เล่นใหญ่ไฟกะพริบเลยทีเดียว นอกจากลุงจิม แครีย์แล้ว ยังมีนักแสดงนำที่รับบท ‘ทอม’ ที่เป็นเสมือนพ่อของโซนิคอย่าง ‘เจมส์ มาร์สเดน’ มาอวดฝีมือการแสดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันความสนุก ยิ่งมาประกบกับโซนิคแล้ว ทำให้หนังดูคอมเมดี้ขึ้นมาเลยทีเดียว ในด้านของนักพากย์ได้คว้าตัว ‘เบน ชวาร์ตซ์’ มาพากย์เสียงในตัวละครหลักอย่างโซนิค ด้วย ต้องบอกเลยว่าเสียงมีเอกลักษณ์มาก ๆ สมแล้วกับตัวละครโซนิคตัวเอกของเรื่อง ดูแล้วได้อรรถรสมากขึ้นเยอะเลย
ระบบเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
ด้านโพรดักชัน ภาพ แสง สีและเสียงถือว่าเล่นใหญ่สมคำร่ำลือจริง ๆ CG ในเรื่องเป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ หากขาด CG ที่สมจริงและดูอลังการแบบนี้ไปหนังคงเห่ยมาก ๆ แน่ แต่ Sonic The Hedgehog 2 นี้ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ดูยิ่งใหญ่กว่าภาคก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ แอบได้ยินมาว่าทางผู้สร้างทุ่มเงินกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุงโฉมหน้าใหม่ของโซนิคให้ดูดีมากขึ้น หลังถูกแฟน ๆ บอกว่าภาคแรกหน้าตาโซนิคดูประหลาดไปหน่อย ถือว่าภาคนี้โซนิคของพวกเราน่ารักขึ้นมาก แต่ความแสบซนยังคงเท่าเดิม (ฮ่าๆ) หากใครอยากชมความแสบซนของเจ้าเม่นโซนิคกันแบบเต็ม ๆ แล้วและอยากรู้ว่า CG เรื่องนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน ต้องตามไปดูได้ใน Sonic The Hedgehog 2 ที่นี่เลย