Homestay โฮมสเตย์ | เมื่อมินเกิดใหม่ ได้รางวัลจากผู้คุม
หลายๆ คนคงรอคอยที่จะได้ชมภาพยนตร์ไทยที่ดูดีมีคุณภาพ ไว้ใจได้ ว่าเข้าไปดูแล้วจะไม่ผิดหวัง หลายครั้งหลายหน คนไทยคาดหวังกับผลงานภาพยนตร์ไทยจากค่าย GDH ที่มักจะได้ผลตอบรับในทางที่ดีเป็นส่วนใหญ่ จนมาถึงเรื่องนี้ ที่ถูกป่าวประกาศไว้นานพอดู ‘Homestay’ หรือชื่อไทย ‘โฮมสเตย์’ ว่าจะเป็นผลงานใหม่จากผู้กำกับฯ อย่าง ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ
หลายคนคุ้นชื่อเขาดี เพราะเคยกำกับคู่กับ บรรจง ปิสัญธนะกูล ในเรื่อง ‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ และ ‘แฝด‘ ก่อนจะขึ้นมากำกับเดี่ยวๆ ในหนังอีกหลายเรื่อง ไล่กันไปตั้งแต่ ‘สี่แพร่ง’ ตอน เที่ยวบิน 224, ‘ห้าแพร่ง’ ตอน รถมือสอง, มีหนังสั้นพิเศษ 2 เรื่อง ก่อนจะมาถึงเรื่องนี้ หนังที่ได้รับแรงบันดาลและดัดแปลงบทมาจากงานเขียนของ MORI Eto และ ‘Homestay’
เรื่องย่อหนัง ‘Homestay’
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวิญญาณเร่ร่อนได้รับรางวัลด้วยการกลับไปอยู่ในร่างที่เพิ่งตายไปไม่กี่ชั่วโมง มีผู้คุมคอยติดตามผลอยู่เป็นระยะ แต่รางวัลนั้นมาพร้อมกับภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ วิญญาณตนนี้ต้องเข้าไปสิงอยู่ในร่างชั่วคราวที่ถูกเรียกว่า ‘โฮมสเตย์’ ของเด็กหนุ่มที่ชื่อ มิน (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ผู้ที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปหยกๆ ได้ยาวนาน 100 วัน แลกกับการที่ต้องตามหาสาเหตุของการตายของมินให้ได้ทันเวลา
‘Homestay’ ผู้คุมจะมาคอยทวงถามเอาคำตอบจากเขาอยู่เรื่อยๆ ในรูปกายที่แตกต่างกันไป นาฬิกาหยุดเดินเมื่อไหร่หมายถึงหมดเวลา มินจะตายอีกครั้งทันที การเข้ามาสิงในร่างครั้งนี้ เขาจะจดจำอะไรไม่ได้เลย แม้กับตัวเองและตัวมิน ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นใน 100 วัน คือการสืบหาแทบจะล้วนๆ แต่ก็ใช่ว่า มันจะไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นเมื่อเขาได้พบกับรุ่นพี่รหัสที่เห็นครั้งแรกก็ปิ๊งว้าว พาย (เฌอปราง อารีย์กุล หรือ Cherprang BNK48) คนที่ทำให้เขาคิดว่าการเกิดใหม่ครั้งนี้มีความหมายยิ่งขึ้น
รีวิวหนัง ‘Homestay’
จากจุดเริ่มต้นที่เราได้เห็นการเข้ามา “อยู่” ของวิญญาณเร่ร่อน ผู้ไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจอะไรเลยในตอนแรก จนผู้คุมมาเล่าให้ฟังว่ามันคือรางวัล ที่มันจะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งไม่ต้องเร่ร่อนเหมือนที่ผ่าน แต่ต้องแลกด้วยการค้นหาว่า “เจ้าของร่างเดิม” นั่นตาเพราะใคร โดยไม่ทิ้งข้อมูลอะไรไว้เลย นอกจากมันชื่อ “มินเหมือนจะเป็นเรื่องดีนะกับการที่ไม่มีชีวิตอีกครั้ง แต่ก็เป็นภาระที่หนักอึ้งพอควรการสืบหาอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลยสักนิดร่างชั่วคราวนี้คือประตูที่เปิดไปสู่การมีครอบครัวใหม่ มีเพื่อนใหม่ แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการได้รู้จักกับ พาย ผู้หญิงที่ทำให้เขาอยากพักอยู่โฮมสเตย์นี้ตลอดไป
การเล่าอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้เข้าใจหนังที่เล่นท่ายากได้ง่ายขึ้นพอสมควร จากที่ได้รู้จักกับโฮมสเตย์แล้ว ก็ได้มารู้จักกับครอบครัวของมิน ก่อนจะได้มารู้จักกับพาย จากที่มันไม่เคยรู้จักกับโลกของมินเลย มันก็ต้องค่อยๆ สืบหาทีละอย่าง แต่ก็ดูเหมือนการมีพายจะทำให้วิญญาณอย่างมันไขว้เขวไปจากจุดมุ่งหมายไปบ้าง
การมีชีวิตในร่างคนอื่นก็ไม่ได้แย่เสมอไปแฮะ
แต่การเป็นมนุษย์มันก็ย่อมมีเผลอไผลกันไปได้ ก็พี่รหัสออกจะน่ารักขนาดนั้นนี่นา ถ้าไม่มีผู้คุมที่ชอบเล่นสิงเขาไปทั่ว เปลี่ยนร่างเป็นว่าเล่น ก็อาจจะทำให้หนังไร้กิมมิกมากพอ ถ้าจะถามว่า ชอบผู้คุมร่างไหนมากที่สุด ก็คงต้องตอบว่าคือ พี่เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์แกเล่นได้ใหญ่โตสะใจดีจริงๆ
ความโดดเด่นของหนังไทยอย่าง ‘โฮมสเตย์’ นั่นมีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น CG เทคนิคพิเศษที่เนียนเป็นพิเศษ เพลงประกอบที่ลื่นไหลไปกับภาพ นักแสดง พระนางที่เล่นเข้าคู่เคมีดูเข้ากันได้ดี ถ้านับว่าเป็นผลงานหนังใหญ่เรื่องแรกของเฌอปราง อาจจะไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบ บางฉากยังดูไม่อินมากพอ แต่ก็ถือว่าเธอมีความพยายาม เอาชนะกำแพงของตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่เจมส์ กลับเป็นคนที่ทำได้ดีกว่าที่เคย
ส่วนนักแสดงสมทบมากหน้าหลายตา ล้วนแล้วแต่พกเอาฝีมือมาทุ่มสุดตัวลงเล่นประชันกันทั้งนั้น แถมบทยังชวนให้คิดตาม ค้นตาม ว่าสิ่งที่วิญญาณตนนี้ต้องตามหาคืออะไร จะใช่คำตอบที่ถูกหรือไม่ และสิ่งที่มันค้นเจอคือความจริงที่ถูกต้องหรือยัง มันหาใช่แค่หนังทริลเลอร์ชวนตื่นเต้น
สำหรับตัวผมเอง ชื่นชมในการดำเนินเรื่องของหนัง ลื่นไหลแม้จะมีบางจุดที่รู้สึกว่าพอเดาได้อยู่บ้าง กับบางจุดที่รู้สึกสะดุดนิดๆ เหมือนหนังพยายามจะเล่าต่อไปถึงตรงนั้น แต่มันดูแหม่งๆ ไปบ้าง กับการแสดงของเฌอปรางที่อาจจะทำได้ดีในบางฉาก แต่ก็ยังไม่ถึงนักในบางฉากเช่นกัน
แก่นของหนังมีความน่าสนใจมากพอ และอาจจะเป็นอะไรที่ให้แง่คิดในการใช้ชีวิตของวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ช่วงสรุปสุดท้ายของหนัง อาจจะดูดร็อปไปบ้างหลังจากความพีคมันผ่านพ้นไปแล้ว แต่สิ่งที่ผมต้องขอชื่นชมมากๆ อีกสิ่งนั่นคือ