ครบรอบ 20 ปี In the Mood For Love ผลงานสุดเหงาเรื่องที่ 7 ของ หว่อง กาไว
In the Mood for Love- Official Trailer [ ตัวอย่างซับไทย ]
In the Mood For Love ผลงานสุดเหงาเรื่องที่ 7 ของผู้กำกับ หว่อง กาไว กับการเล่าเรื่องความรักของชายหญิง ที่ต้องติดอยู่กับความผิดต่อจารีตประเพณี โจวหมู่หวัน รับบทโดย เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung Chiu Wai) ย้ายมายังฮ่องกงพร้อมภรรยาของเขา พร้อมๆ กับครอบครัวของ ซูวไหล่เจิน รับบทโดย จาง หมั่น อวี้ (Maggie Cheung) ที่เดินทางมาฮ่องกงพร้อมกับสามีของเธอ
ทั้ง 2 ครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในห้องพักติดกัน และย้ายของมาในวันเดียวกัน เราจะทราบแต่เริ่มเรื่องเลยว่า ตัวละครทั้งสองอยู่ในฐานะของคนที่มีคู่สมรสแล้ว ฝ่ายหญิงมีบริษัทตั๋วส่งสินค้าเดินทาง ส่วนฝ่ายชายเป็นนักข่าว หว่องกาไว เล่นตลกกับคนดู โดยการแสดงตัวตนของ คู่รักของทั้งสองผ่านเพียง แสง เงา และเสียงพูด ไม่ได้เจาะจงให้เห็นตัวตนแต่อย่างใด
ซูว ใช้เวลาว่างอยู่ในห้อง และทำอะไรคนเดียวเป็นประจำ เนื่องจากสามีของเธอมักมีธุระเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ส่วนทางด้านภรรยาของโจวหมู่หวัน นั้นทำงานเป็นพนักงานต้อนรับแขกในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งแทบไม่มีเวลาให้สามี
เรื่องราวดำเนินไปจุดหนึ่ง โจวหมู่หวัน และ ซูวไหล่เจิน เริ่มเห็นตรงกันว่า สามี และ ภรรยา ของทั้งคู่มีความลับบางอย่างในเชิงชู้สาว ทั้งคู่เริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับการนอกใจในคู่ของตัวเอง โจวหมู่หวัน ตั้งใจไปหาภรรยาในตอนเย็นเพื่อนัดทานข้าว และพิสูจน์บางสิ่ง ภรรยาของเขานั้นกลับเลิกงานไปนานแล้ว และสามีของซูวเองก็มีความลับชุกช่อนอยู่ ทั้งเหตุและผลหลายๆ สิ่งทีทำให้เธอระแคะระคาย จนคนทั้งสองพอจะคาดเดาความจริงได้ เกี่ยวกับคู่ของตน
คนที่กำลังมีบาดแผลในใจ 2 คนมาเจอกัน และเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจกัน ‘ความรัก’ ก็มักจะก่อตัว เพียงแค่มันเกิดผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย เมื่อจารีตประเพณีในสมัยนั้น ไม่อำนวยนักกับการที่จะเลิกลา แล้วแต่งงานใหม่ได้อย่างสบายใจเหมือนทุกวันนี้
ประกอบกับ จังหวะหลายสิ่งภายในตึกอันคับแคบที่หลากพ่อพันแม่ ที่ยังยืนกรานในจารีตประเพณีเดิม สามารถจะซ้ำเติมความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้ได้ตลอด การแสดงตัวว่ากำลังพูดคุย หรือเห็นใจกันในบ้านกลับเป็นสิ่งที่ยากยิ่งในสายตา และจารีตแบบนี้ นั่นคือเหตุผลที่ ภรรยา และสามีของทั้งคู่ต้องออกไปคบกันข้างนอก
เรื่องราวดำเนินไปด้วยความเหงา การวางแผนในการเอาคืนคู่ของตัวเอง และเต็มไปด้วยความรู้สึก ‘รัก’ ถ้าหากว่าตอนจบของหนังคือทั้งคู่ต่างเลิกลากับคู่ของตน แล้วหันมาใช้ชีวิตใหม่ด้วยกัน ทุกอย่างก็คงจะลงตัวแฮปปี้เอ็นดิ้งตามแบบฉบับหนังรักทั่วไป แต่ในหนังเรื่องนี้กลับไม่เป็นไปดังว่า เพราะคำว่าจารีตประเพณี และความทรนงของผู้หญิงในยุคนั้นกับการถูกตราหน้าว่าเปลี่ยนคู่ได้เร็ว เป็นสิ่งที่ฆ่าเธอได้ง่ายที่สุด ซูวไหล่เจิน จึงตัดสินใจที่จะหักห้ามความรู้สึกของตัวเองเอาไว้
คืนสุดท้ายที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน โจวหมู่หวัน ขอให้เธอไปสิงคโปร์หนีไปด้วยกันกับเขา เธอปฏิเสธเพราะหน้าที่ของภรรยา คือเกียรติที่เธอต้องถือไว้ แม้ว่าสามีจะเป็นยังไง ‘เราจะไม่เป็นเหมือนอย่างพวกเขา’ สุดท้ายโจวหมู่หวันเลือกที่จะปล่อยมือของเธอออก และเดินทางไปสิงคโปร์เพียงลำพัง…
หนังได้รับเลือกเข้าชิงรางวัล Palm D’or รางวัลสูงสุดของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ถือเป็นการร่วมงานกันครั้งที่ 6 ระหว่าง ผกก. หว่องกาไวและ ผกก.ภาพ คริสโตเฟอร์ ดอยส์ โดยมี ปิงบินลี เป็นผู้กำกับภาพร่วม หนังใช้โลเคชั่นถ่ายทำในประเทศไทย ย่านบางรัก และเจริญกรุง
โดยฉากหลังเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฮ่องกงปี 1962 ซึ่งเป็นปีที่หว่องกาไวในชีวิตจริงอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น และแน่นอนว่าหนังของเขาไม่มีบท ไม่มีสคริปต์ ถือเป็นสไตล์เฉพาะตัวของหว่องกาไวเค้าแหละ
จากหนังเรื่องนี้ เหลียงเฉาเหว่ย ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ถือเป็นนักแสดงเอเชียคนที่ 2 ถัดจาก จีหยู่ (Ge You) ที่ได้รางวัลเดียวกันนี้จากหนังเรื่อง To Live (1994) และเป็นนักแสดงฮ่องกงคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้
และในปีนี้ ถือเป็นการครบรอบ 20 ปีบริบูรณ์ของ ‘In the Mood for Love’ เราจะได้นั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งในเวอร์ชันดิจิตอล 4K ซึ่งจะเข้าฉายในไทย 29 ตุลาคมนี้ ที่ HOUSE SAMYAN / MAJOR CINEPLEX / SF CINEMA